Vanquishing the Demons – สงครามปีศาจแห่งเซ่าหลิน (ปี 2020)

Vanquishing the Demons – สงครามปีศาจแห่งเซ่าหลิน (ปี 2020)

More

คะแนนรีวิว

0 %

เรทติ้ง

0 ครั้ง
             
ให้คะแนนหนังเรื่องนี้:

เรื่องย่อหนัง:

คำนำ

พระอรหันต์เป็นเครื่องกำเนิดแห่งศาสนาพุทธศิลป์ และมีฐานะเป็นบุคคลสัญชาติที่เรารู้จักกันดีในวัฒนธรรมไทย ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสู่เส้นทางการผจญภัยที่จะนำพระอรหันต์ไปสู่การต่อสู้กับปีศาจ เพื่อช่วยเหลือชีวิตมนุษย์ที่มีแต่ตัณหาและกิเลศ ที่สิ่งที่ขึ้นต้นด้วยความขี้อายและขี้กลัวของศิษเส้าหลิน ฮุ่ยไห่ ได้ทำให้เขามีการเปลี่ยนแปลงในการมองโลกในแง่ที่ต่างกัน

เส้นทางการเดินทาง

ศิษย์พี่ชายของฮุ่ยไห่ต้องการต้อนรับพระอรหันต์ ในการเดินทางเขาได้นำเส้นทางขึ้นไปยังยอดเขาที่มีชื่อเสียบนส่วนหนึ่งของป่า ซึ่งเป็นฐานของปีศาจสิงห์ ด้วยความกลัวความเคลื่อนไหวระหว่างการผจญภัย ฮุ่ยไห่รู้สึกว่าเกือบทุกๆ เส้นทางที่เขาผ่านไปยังยอดเขาถูกกำหนดโดยปีศาจ ในขณะที่เขากำลังตกใจต่อความอันตรายซึ่งมาไกลจากการต่อสู้กับปีศาจ ฮุ่ยไห่เห็นเด็กหนึ่งที่หลบซ่อนอยู่ในพุ่งที่หันไปหงายหน้า เหมือนกับว่าหลังหลอกเขาเสียเรื่องราวด้านหลัง

ความกลัวและความขี้อายของฮุ่ยไห่ได้ผ่านไป มาเมื่อเขาเห็นเด็กนั้นมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า เมื่อเขาสอบถามว่าทำไมเด็กจึงมาอยู่ในจุดนี้ เด็กตอบว่าเขาต้องการขอความช่วยเหลือในการค้นหาพ่อแม่ของเขาที่สูญหายไป ทั้งนี้เนื่องจากเด็กได้ยินเสียงร้องเรียกชื่อจากภูเขาและคิดว่าคงเป็นเสียงของพ่อแม่เขา

เส้นทางของฮุ่ยไห่ผ่านไปหลายชั้นของปีศาจ แต่เขาก็ไม่กลัวอีกต่อไปเนื่องจากต้องการต่อสู้เพื่อช่วยเหลือเด็กนั้นให้ได้พบพ่อแม่ของเขา ได้เวลาที่เขาจะใช้ความสามารถของพระอรหันต์ในการต่อสู้กับปีศาจและปกป้องชีวิตมนุษย์ที่ไม่ได้มีทางการต่อสู้ในตัว

การต่อสู้กับปีศาจ

เริ่มต้นด้วยการปลดปล่อยความขี้อายและความกลัวภายในตัว ฮุ่ยไห่เริ่มจู่โจมให้กับปีศาจโดยอาศัยการใช้ศิลปะการต่อสู้ของพระอรหันต์ เขาใช้ความล้มเหลวของปีศาจและยิ่งใหญ่ขึ้นด้วยกำลังของการสร้างสรรค์ศาสตร์ให้มากยิ่งขึ้น โดยเรียกใช้งานไฟฟ้าจากธรรมชาติเพื่อสร้างความเสียหายแก่ปีศาจโดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายแก่โลก ในการต่อสู้ต่อไปนี้ ฮุ่ยไห่ได้ไว้วางใจตนเองและตัวเองเป็นเกียรติในการสร้างสรรค์ศาสตร์ พร้อมทั้งด้วยความอดทนและความสม่ำเสมอที่เพื่อนำพาบนเส้นทาง

การผสมผสานกันแบบสมบูรณ์

การต่อสู้ของฮุ่ยไห่ไม่ได้ใช้ศิลปะการต่อสู้ของพระอรหันต์เพียงอย่างเดียว แต่ยังผสมผสานกับวิชาอื่นๆ เช่น การเยียวยาอาการของเด็กที่ต้องการช่วยเหลือ การใช้พลังบวกที่มากขึ้นเพื่อสร้างสรรค์ศาสตร์และสร้างความแรงใจร่วมกันในการต่อสู้ เพื่อช่วยเหลือสังคมในการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม

สรุป

ฮุ่ยไห่ เปลี่ยนไปจากคนขี้อายและขี้กลัวเป็นผู้ที่มั่นใจในการต่อสู้หลังจากการผจญภัยหาพ่อแม่ของเด็กที่สูญหายไป ด้วยการผสมผสานของศิลปะการต่อสู้และวิชาอื่นที่เกี่ยวข้อง เขาสามารถใช้พระอรหันต์เป็นเครื่องมือในการต่อสู้กับปีศาจและปกป้องชีวิตมนุษย์ที่ไม่มีทางการต่อสู้ในตัวเอง การผสมผสานนี้ก็เป็นสิ่งที่จะช่วยให้เราเข้าใจว่าเมื่อเราผสมผสานโลกแห่งความรู้สึกและความคิด มันจะทำให้เราเป็นไปได้อย่างไร้ขีดจำกัดในการต่อสู้เพื่อความเป็นมนุษย์ของเราและชุมชนของเราโดยรวม